รังสิมันต์ โรม เผย สำนวนไม่สมบูรณ์ หลังเข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายจับ คดีมูลนิธิป่ารอยต่อ ตำรวจเตรียมสอบสวนเพิ่มและแจ้งข้อหาใหม่ 31 มี.ค. นาย รังสิมันต์ โรม ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการพรรคก้าวไกล ได้ออกมาโพสต์ข้อความเฟซบุ๊ก หลังจากที่เมื่อช่วงเช้าได้เดินทาง ยัง สน.บางขุนนนท์ เพื่อเข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายจับ
หลังจากที่ตนได้อภิปรายเรื่องปัญหาค้ามนุษย์ชาวโรฮีนจา
ในเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา และ อภิปรายนอกสภา ถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี แล้วไปพาดพิงไปถึงมูลนิธิป่ารอยต่อ จนถูกมูลนิธิฯ ฟ้องหมิ่นประมาท เมื่อปี 63 ซึ่งผลสรุปคือ “สำนวนไม่สมบูรณ์” ทางตำรวจจะต้องมีการสอบสวนและแจ้งข้อหาเพิ่มเติมในวันที่ 31 มีนาคมนี้
โดยข้อความเฟซบุ๊กระบุว่า “สิ่งที่เกิดขึ้นยิ่งทำให้เกิดข้อสงสัยเพิ่มเติมว่าในเมื่อสำนวนยังไม่เรียบร้อยเช่นนี้ แล้วทางตำรวจจะดันทุรังเร่งออกหมายจับเพื่อนำตัวผมมาส่งอัยการไปเพื่ออะไร? แล้วศาลอนุมัติหมายจับในสำนวนที่ไม่เรียบร้อยแบบนี้ได้อย่างไร? มีใครต้องการใช้กระบวนการทางคดีเพื่อกลั่นแกล้งกันหรือไม่?
นี่ไม่ใช่สิ่งที่เกิดกับผมแค่คนเดียว และอันที่จริงแล้วกรณีของผมนับว่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับพี่น้องประชาชนผู้แสดงความเห็นทางการเมืองและตั้งคำถามต่อรัฐบาลอีกเป็นจำนวนมาก ที่เมื่อถูกยัดคดีเข้ามา เขาก็ไปรายงานตัวกับตำรวจอย่างสม่ำเสมอ ไม่คิดหลบหนี แต่ก็ยังถูกคุมขังอยู่เสมอเพียงเพราะเขาเป็นคนตัวเล็กๆ ที่ไม่มีปากเสียงอะไร
ผมไม่อยากให้ประเทศแห่งนี้เป็นประเทศที่เมื่อมีคนเอาความจริงมาพูด แล้วผลลัพธ์จะต้องกลายเป็นคดีความอยู่ร่ำไป จนกระทั่งไม่มีใครกล้าตรวจสอบผู้มีอำนาจ ไม่ว่าจะเป็นบุคคลทั่วไปหรือ ส.ส. และผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าพี่น้องเจ้าหน้าที่ทั้งหลาย แม้ท่านจะถูกกดดันมาจากเบื้องบน แต่ก็จะต้องไม่นำพาประเทศไปสู่จุดนั้น
.
ทั้งนี้ในวันนี้มีพี่น้องประชาชนจำนวนมากเดินทางมาให้กำลังใจผมทั้งที่หน้า สน.บางขุนนนท์ ที่สำนักงานอัยการตลิ่งชัน และที่ให้กำลังใจมาทางออนไลน์ ผมขอขอบคุณน้ำใจของพี่น้องทุกท่านที่มาร่วมติดตามสถานการณ์ของผมครั้งนี้ และหวังว่าการดำเนินการทางกฎหมายต่อการใช้อำนาจโดยมิชอบของเจ้าหน้าที่ ซึ่งผมจะพิจารณาดำเนินการหลังจากนี้ไป จะช่วยเป็นบรรทัดฐานในการปกป้องสิทธิในกระบวนการยุติธรรมและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของพี่น้องประชาชนทุกคน ไม่มากก็น้อย
และล่าสุดในวันที่ 17 มีนาคม 2565 ทางตำรวจได้ออกหมายจับ โรม รังสิมันต์ จากการกล่าวถึงกรณีก่อนหน้านี้ เมื่อปี 2563 ที่มีการเปิดอภิปรายนอกสภา ถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ แล้วไปพาดพิงไปถึงมูลนิธิป่ารอยต่อ จนถูกมูลนิธิฯ ฟ้องหมิ่นประมาท ได้มรการออกหมายจับเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งก่อนหน้านี้ โรม ได้มีการออกมาเปิดโปงข้อมูลเกี่ยวกับมูลนิธิป่ารอยต่อ และถูกฟ้องร้องแต่คดีก็เงียบไป
และโรม ได้มีการออกมาตั้งข้อสังเกตผ่านเฟสบุ๊คส่วนตัว Rangsiman Rome – รังสิมันต์ โรม มีใจความว่า ‘เหมือนมีความพยายามจะเร่งรัดคดีในช่วงนี้ ซึ่งเป็นช่วงปิดสมัยประชุมสภา ทำให้หากมีการจับกุม และถูกศาลสั่งขังโดยไม่ให้ประกันตัว ตนก็จะพ้นจากความเป็น ส.ส. ได้’
นอกจากนี้ยังตั้งข้อสงสัยอีกว่า การออกหมายจับในครั้งนี้ ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่เพราะตามเงื่อนไขการออกหมายจับ จะออกได้เมื่อถูกร้องในคดีที่มีอัตราโทษจำคุกสูงเกิน 3 ปี หรือมีหลักฐานควรเชื่อว่าจะหลบหนี ซึ่งคดีหมิ่นประมาทที่โดน โทษก็ไม่ถึง 3 ปี และไม่เคยมีพฤติการณ์ที่จะหลบหนี
ฟังเพลงใหม่ ‘แอ๊ด คาราบาว’ แต่งให้ ศบค. จะอดตายกันหมดแล้ว
แอ๊ด คาราบาว แต่งเพลง “ปล่อยวางโควิด” ฝากถึง ศบค. จะอดตายกันหมดแล้ว ปากท้องสำคัญกว่า เกมการเมือง แอ๊ด คาราบาว “ยืนยง โอภากุล” ออกมาแต่งเพลง “ปล่อยวางโควิด” ซิงเกิลที่ฝากไปถึง ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด19 หรือ ศบค. โดยบนหน้าเฟซบุ๊กแฟนเพจ Carabao Official ได้โพสต์คลิปวิดีโอซึ่งเจ้าของบทเพลงเพื่อชีวิตได้ขับร้องเอาไว้ ขณะเดียวกันก็ยังเขียนข้อความอธิบายเกี่ยวกับที่มาของบทเพลงดังกล่าวอีก ด้วยเนื้อหา ดังนี้
“ผมแอ๊ด คาราบาวครับ ผมตั้งใจแต่งเพลงนี้จากความเห็นของประชาชนคนไทยที่หาเช้ากินค่ำคนหนึ่ง (แต่ผมหาค่ำกินเช้า 55555) เพื่อส่งจดหมายให้ท่าน ศบค. ให้ท่านได้รับรู้ถึงความยากลำบากถึงชีวิตของพี่น้องคนไทยทั้งประเทศ ว่าวันนี้เราไม่กลัวโควิดแล้ว”
“เพราะที่ผ่านมารัฐบาลเเละ ศบค.ท่านก็แก้ปัญหาได้ดีแล้ว แต่ทำไมท่านจึงไม่ปล่อยวางสักที ผมไปแจกถ้วยฟุตบอลคาราบาวคัพที่อังกฤษ ขนาดเมืองหนาวแท้ๆ เขายังปล่อยวางได้ คนดูเกือบ 90,000 คนแออัดกันในสนามฟุตบอลเวมบลีย์ จนผมต้องถอดหน้ากากอนามัยออกเพราะอายเขาที่ผมสวมอยู่คนเดียวเป็นแกะดำ”
“ถ้าจะทำกันจริงจังเอาแบบจีนเสิ่นเจิ้นตอนนี้ดีไหมครับ ล็อคให้มันสุดๆ ไปเลยโดยมีกำหนดระยะเวลาที่ชัดเจน…. เฮ้อ? ขนาดจีนเขาทำงานหนักกว่าเราหลายเท่า คนก็ยังกลับมาติดอีก แต่เขาก็ไม่กลัว”
“ผมว่าเราเลิกคิดที่จะกำจัดโควิดให้หมดไปจากแผ่นดินได้เเล้ว จีนยังทำไม่ได้เลย ยอมรับความจริงนี้เเล้วอยู่กับมัน ไอ้ไข้หวัด 19”
“ขอได้ จประชาชนตาดำๆ ที่ต้องออกไปทำมาหากินเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง ยังมีอีกหลายๆ อาชีพที่ยังถูกห้ามหากินด้วยเถิดครับ ห่วงโซ่ธุรกิจพังหมดแล้วท่าน” กราบขอบพระคุณด้วยความเคารพครับท่าน ศบค. แอ๊ด คาราบาว
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป